
Sweet tooth เมื่อเจ้ากวางน้อยต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อโลกใบใหม่
Sweet tooth เมื่อเจ้ากวางน้อยต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อโลกใบใหม่
หนัง Netfix แนวแฟนตาซีอิงนิยายผสมการ์ตูนหน่อย
และได้ โรเบิตร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ หรือที่รู้จักในนาม ไอร่อนแมน ฮีโร่จากค่ายแฟนมาเวลมานั่งแท่งโปรดิวเซอร์ กำกับการสร้างหลังจากจบศึกใน end game
บางคนก็มีแอบแซวกันเล็กน้อยว่า สงสัยๆ ป๋าแกจะเบื่อที่จะบินไปกู้โลกแล้ว เลยมาขอสร้างหนังแนวแฟนตาเซีย ดูสักเรื่อง ซึ่งตัวหนังได้มีการนำ การ์ตูนยอดนิยมอย่าง Sweet Thooth นายกวางน้อยฟันหวานที่เคยออกตีพิมท์ครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งจัดทำโดยค่าย DC vertigo ค่ายเดียวกับฮีโร่สายดาร์คอย่าง DC อะแหละแต่หนังนี้จะซอฟลงมาเยอะเลยแต่อาจจะมีช่วงตึงๆหน่อยๆที่พอจะรับไว้

ความน่าสนใจคือ เสน่ห์ของเจ้ากวางน้อยที่ได้ดาราเด็กอย่าง คริสเตียน คอนเวอร์รี่ วัย 11 ปีที่ตัวแค่นี้แต่ฝากผลงานภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง ดับเพลิงอลเวง และ pup Academy และเพลงประกอบที่ไพเราะ การเซตฉากและการวางบทตัวละครที่ลงตัวมากทั้งแสดงสมทบและบทเพลงนับเป็นหนังดัดแปลงจากการ์ตูนเรื่องเด่นเลยก็ว่าได้ที่ประสบความสำเร็จและได้คะแนน รีวิวแง่ดีถึงดีมากในเว็บมะเขือเน่า

เรื่องราวของตัวหนังจะเกี่ยวกับ โลกหลังจากโรคระบาดร้ายแรงที่คร่าชีวิตผู้คนไปจนเกือบหมดและยังเหตุการณ์ประหลาดมากมายตามมาเช่นเด็กที่เกิดใหม่ในยุคนี้จะเป็น พวกไฮบริด ครึ่งคนครึ่งสัตว์และแล้วเรื่องราวประหลาดมันก็นำโลกของเราไปสู่ยุคแห่งความหายนะในที่สุด
10ปีต่อมา เหมือนทั้งโลกที่เคยหยุดหมุนไปแล้วรอบหนึ่งจะค่อยๆกลับมาหมุนได้อีกรอบเมื่อ กัส ลูกครึ่งคนครึ่งกวางได้อาศัยและเติบโตมาท่ามกลางป่าอันแสนสงบสุขและใช้ชีวิตอย่างสันโดษคนเดียวที่นั่นเพียงลำพัง แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาเขาให้ได้มาพบกับ เจพเพิรด์ ชายพเนจรผิวดำร่างยักษ์ที่บังเอิญผ่านมา กัสไม่มีรีรอช้าเข้าไปพูดคุยกับเจพเพิร์ดและอ้อนวอนให้ช่วยตามหาแม่ผู้หายสาบสูญของตนเองซึ่ง เจพเพิรด์เพราะสงสารเจ้ากวางน้อยที่ถูกทอดทิ้งก็รับปาก และแล้วการผจญภัยเพื่อตามหาแม่ของกัสบนโลกที่ล่มสลายก็เริ่มต้นขึ้น
เนื่องจาก กัส เป็น ครึ่งคนครึ่งกวางนั้นก็ถือเป็นตัวอย่างหายากและตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังสุดท้ายของมนุษยชาติ เดอะ Last men พวกเขาต้องหลบหนีการไล่อันบ้าระห่ำของมนุยษ์ด้วยกันเอง
ฉากแล้ววันนี้ที่ทางช่อง Nerfilx และมีจำนวนตอนทั้งสิ้น 8 ตอน
สรุปโดยย่อ จุดที่น่าตกใจของ Sweet toot คือ การนำ หนังแนวน่ารักสดใสมาผสมกับความดาร์กและสิ้นหวังตามฉบับDCได้อย่างลงตัว มันเหมือนช่วงเวลาที่เด็กน้อยคนหนึ่งกำลังจะได้เติบโตกระโจนเข้าสู่โลกกว้างด้วยความใสซื่อและคิดในแง่ดีแต่ และตีความ ความดาร์กและความหลังของ เจพเพิร์ดได้ลงตัวและไม่แรงเกินรับไม่ไหว
สิ่งที่บอกได้สองอย่างคือ หนังพยายาม สื่อในแง่ของ ความต่างกันทางความคิดของเด็กและผู้ใหญ่ที่สะท้อนออกมาในรูป โลกในอุดมคติและโลกแห่งความเป็นจริงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ