
ทำความรู้จักก่อนชมหนัง No Time to Die ปิดตำนานโคตรสายลับ
No Time to Die เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 25 ของตำนานโคตรสายลับอย่าง เจมส์ บอนด์ 007 เหมือนตัวนักแสดง Daniel Craig เองก็จะอายุเยอะแล้วแกเลยจะมาปิดตำนานแบบจัดเต็มซะหน่อยเอาให้ชนิดที่ลูกหลายที่จะทำหนังสายลับต่อจากนี้ให้มันรู้ไปเลยว่าที่การโลดแล่นบนม้วนแผ่นฟิลม์ฉบับมือพระกาฬแบบนี้ใครใหญ่ กำกับผู้กำกับ2แผ่นดินญี่ปุ่นอเมริกา Cary Joji Fukunaga
ตัวหนังเริ่มมีการถ่ายทำกันตั้งแต่ปี 2559 แล้วและกะจะนำมาฉากในปี 2563 แต่เนื่องจากโควิดเริ่มระบาดทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่พวกเขาก็สามารถทำมันสำเร็จและสามารถนำมาออกฉากได้ในปี 2564 (เกือบ2565) Daniel Craig ได้เล่าว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาต้องวางมือจากตำแหน่งสายลับมาดเท่ MI6 แบบเขาเองก็เริ่มรู้ตัวว่าภาคต่อไปไม่ไหวแน่ เลยจะใส่แรงและกำลังทั้งหมดลงไปในหนังลำดับที่ 25 นี้ด้านดาราและนักแสดงก็ได้รับคำชมเป็นแง่บวกอย่างมากเรามาดูกันพวกเขารู้สึกแบบไหนหลังดูจบ
Mike Ryan จากภาพยนตร์ Uproxx
ใครที่ยังไม่เคยไปดูหนังนะไปดูเพราะภาพยนตร์ No Time To Die เป็นจากภาพยนตร์ที่สมการรอคอยเป็นการรอคอยที่คุ้มค่า เป็นภาพยนตร์ที่ดูจบแล้วรู้สึกดี ผมคิดว่าแม้แต่นักแสดงที่รับบท James Bond คนก่อนๆ ก็จะรู้สึกดีไปกับเรื่องนี้ด้วย

Pete Hammond จากภาพยนตร์Deadline
ใช้ได้เลยสำหรับผู้กำกับแดนปลาดิบบบคนนี้เขานำเสนอฉากแอ็กชั่นไล่ล่า, ระเบิด, งานสตันต์ และฉากแอ็กชั่นในตอนท้ายที่ยาวมาก ออกมาได้ดี แต่ที่เน้นมากจริงๆ ก็คือความเป็นมนุษย์ ตัวละครมีความซับซ้อนและขัดแย้งกัน ในขณะที่เดินเรื่องไปข้างหน้าได้อย่างลุ้นระทึก
Ian Sandwell จากภาพยนตร์ Digital Spy
นี่เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอทุกอย่างที่แฟน 007 ต้องการชม และมีเซอร์ไพรส์บางอย่างที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกขึ้น โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่ลุ้นระทึกจริงๆ
Jason Solomons จากภาพยนตร์TheWrap
ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นานแต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป ผมพูดถูกไหม เพราะหนังเรื่องนี้เป็นการปิดฉาก James Bond ของ Daniel Craig ที่ดีที่สุด ได้เห็นอารมณ์ตัวละครอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และฉากสุดท้ายที่ยาวมาก และสนุกมากจนไม่อยากให้จบ

Clarisse Loughrey จากภาพยนตร์ The Independent
นี่เป็นภาพยนตร์ที่ดีมากจนสามารถสั่นสะเทือนจักรวาล Bond ได้ บางทีฮอลลีวูดอาจกำลังดำเนินรอยตามสำเร็จจักรวาล MCU และนี่จะเป็นการปิดฉากภาพยนตร์เรื่องที่ 25 ในแฟรนไชส์นี้ให้ดีที่สุด มอบทุกองค์ประกอบที่แฟนๆ ต้องการจาก James Bond แต่มาในรูปแบบที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ฉากแอ็กชั่นดีงามมาก อุปกรณ์ช่วยเหลืออาจดูน่าขันไปสักหน่อยแต่ก็ทำงานได้ดีตามบทที่วางไว้ มีการลงลึกไปในเบื้องหลังของตัวละคร Bond ซึ่งทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมกับภาพยนตร์อย่างถึงที่สุดอย่างไรก็ดี ที่เป็นเพียงคำวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศที่ได้รับชมภาพยนตร์ในรอบสื่อมวลชนไปแล้วเท่านั้น โดย ‘No Time To Die’ มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทย วันที่ 7 ตุลาคม 2021 นี้