[REVIEW ภาพยนต์อนิเมชั่น Disney Plus] Encanto เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์
‘Encanto’ ที่ฉายอยุ่บนช่อง Disney+ ตอนนี้นั้นกำลังเป็นกระแสฮือฮามากที่เดียวเนื่องจากถ้านับตามลำดับของหนังเรื่องนี้แล้วจะตกฟากอยู่ลำดับที่ 60 พอดิบพอดีในระยะเวลา 84 ปีนับตั้งแต่วันฉายของ ‘Snow White and the Seven Dwarfs’ และด้วยกาลเวลาที่ผันผ่านก็ทำให้รูปรอยทั้งงานดีไซน์และไอเดียในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันเริ่มเปลี่ยนไปจากแนวสุขนิยมที่สอนใจเด็ก ๆ และกลายเป็นความทรงจำของผู้ใหญ่สู่การพูดถึงสังคมและการเมืองมากขึ้น
หนัง ‘Encanto’ จะเต็มไปด้วยเสีนงดนตรีและเสียงหัวเราะว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวมาดริกัลครอบครัวชาวโคลอมเบียที่อพยพย้ายถิ่นฐานเพราะไฟสงครามกลางเมืองและในช่วงเวลาที่คุณปู่ของครอบครัวเสียสละชีวิตคุณยายอาบัวล่าได้ค้นพบเทียนมหัศจรรย์ที่ช่วยดลบันดาลบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยมนต์มหัศจรรย์ให้ครอบครัวมาดริกัลมีลูกหลานที่มีพลังพิเศษยกเว้นแต่มิราเบลหลานสาวคนเดียวที่ไม่มีพลังพิเศษใด ๆ แต่แล้ววันหนึ่งขณะทุกคนกำลังเฉลิมฉลองพิธีรับพรได้พลังพิเศษของหลานชายตัวน้อยมิราเบลก็ได้รู้ความจริงว่าเวทมนตร์ที่เหมือนพรพิเศษของครอบครัวมาดริกัลของเธอกำลังจะหมดลงเธอจึงพยายามทำทุกทางเพื่อกอบกู้ครอบครัวและบ้านของเธอหากมองผิวเผิน ‘Encanto’ ก็แทบจะมีพล็อตเรื่องไม่ได้แตกต่างจากแอนิเมชันสไตล์ดิสนีย์เหมือนที่ผ่าน ๆ มาอันว่าด้วยเด็กสาวที่ค้นพบความพิเศษในตัวเองที่ดิสนีย์พยายามจะโปรโมตจุดนี้มาโดยตลอด
ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับลูกคออันใหญ่ยิ่งมันเลยทำให้ภารกิจปกป้องโลกเวทมนตร์ในหนังดูมีความหนักแน่นและในเวลาเดียวกันก็แอบแฝงการสะท้อนความเจ็บปวดของผู้คนอยู่ในทีได้อย่างแยบยลเพราะทั้งภูเขาที่ปิดล้อมและมนตราต่าง ๆ คือการมีเพื่อปกป้องชาวเมืองจากศัตรูที่จะเอาสงครามมาทำลายชีวิตของพวกเขาอีก รวมถึงการที่อาบัวล่าให้ค่ากับพลังพิเศษที่หลาน ๆ จะต้องคอยแก้ไขปัญหาชีวิตให้ชาวเมืองและต้องรักษาภาพลักษณ์ของครอบครัวก็ยังทำให้เห็นถึงการแอบแฝงค่านิยมแบบชาวเบบีบูมเมอร์ที่พยายามตั้งกฎเกณฑ์และกำหนดกรอบให้เยาวชนทำตาม
นอกจากบทเพลงมากมายสื่อความหายแล้วและหากมองให้ลึกแล้วหนังยังให้ตัวละคร มีราเบล กับ อาบัวล่า ก็ยังเป็นตัวแทนของคนยุคเก่าและยุคใหม่ที่ปะทะความคิดกันอย่างน่าสนใจโดยฝ่ายแรกแทนค่าความคิดเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ได้สืบทอดคุณสมบัติแต่ก่อนที่ผู้อ่านจะคิดว่า ‘Encanto’ เป็นแอนิเมชันการเมืองเครียด ๆ ผู้เขียนคงต้องย้ำประโยคหัวเรื่องอีกสักทีเพราะเราเขียนว่า นี่มันแอนิเมชันสอดไส้บรอดเวย์ชัด ๆ และประเด็นที่เราจะพูดถึงและเน้นย้ำซึ่งหากใครได้ลองหาข้อมูลหนังมาบ้างจะรู้ว่าคนทำเพลงให้แอนิเมชันเรื่องนี้คือ Lin-Manuel Miranda ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบละครเวทีอย่าง ‘Hamilton’ (2020) และอยู่เบื้องหลังเพลงประกอบหนังแลการที่ได้มิแรนดามาแต่งเพลงให้ยังส่งผลต่อคาแรกเตอร์ในหนังที่สามารถเพิ่มจุดเด่นได้้ด้วยบทเพลงประจำตัว PES77 เว็บพนันออนไลน์มาใหม่ทำกำไรได้สูง คลิก