[REVIEW ภาพยนตร์ Action] Jurassic World Dominion (2022) จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

         นับเป็นความพยายามเฮือกสุดท้ายหลังจากเหตุการณ์ ในฉากจบ  Jurassic World 2 Fallen Kingdom (2018) ถือเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นของบทสรุปไตรภาคไดโนเสาร์ครองโลกใน Jurassic World Dominion (2022) หรือ ‘จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร’ ภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย(เหลือเปล่า) ของไตรภาค Jurassic World และภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ในจักรวาลจูราสสิค นับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์ภาคแรก ‘Jurassic Park’ (1993) ออกฉายเมื่อเกือบ 30 ปี

         แต่กว่าที่น้องบลู(ไดโนเสาร์มีปีก) และเหล่าพองเพื่อนไดโนเสาร์จากยุคจูราสสิกจะได้กลับมาโลดแล่นกันในปีนี้ ตัวหนังก็ถือว่าต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากพอสมควร ทั้งกระแสจากภาคที่แล้ว Jurassic World 2 Fallen Kingdom (2018) ผลงานการกำกับของ J. A. Bayona ที่ได้คะแนนมะเขือเน่าจากเว็บไซต์มะเขือเน่า Rotten Tomatoes เพียงแค่ 47% ต่ำที่สุดในบรรดาแฟรนไชส์ Jurassic Park แม้จะทำรายได้ค่อนข้างดี

         แต่ว่าแฟนมาเนียที่ยังบูชาใน ภาคเก่า ๆ ก็ออกมาถล่มสะเละแต่พอออกทรงลูกผีลูกคนขนาดนี้  Steven Spielberg Executive Producer เจ้าของแฟรนไชส์ เลยเรียกตัว Colin Trevorrow ผู้กำกับจาก ‘Jurassic World’ (2015) กลับมากำกับในภาคนี้อีกครั้ง และเขาก็ทำออกมาได้สมมาตรฐาน แต่ยังว้าวเท่าภาคเก่า

         สำหรับเรื่องย่อ ๆ ในภาคนี้ ก็จะเริ่มดำเนินเรื่อง 4 ปีให้หลังจาก ภาค 2  Isla Nublar ที่ตั้งดั้งเดิมของสวนสนุกจูราสสิก เวิลด์ ถูกทำลายเพราะถูกภูเขาไฟถล่มในภาคเก่า ไดโนเสาร์ทั้งหลายถูกปล่อยออกสู่ธรรมชาติ เหมือนได้ชัชาติเป็นผู้ว่า Chris Pratt  ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมและโฮโมโซนไดโนเสาร์

          และ Bryce Dallas Howard อดีตนักวิจัยไดโนเสาร์ และน้อง ไดโนมีปีก Isabella Sermon ปลีกวิเวกอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านกลางป่าลึก ก่อนที่บางอย่างจากโลกภายนอกจะทำให้ทุกอย่างพังลง…อีกครั้งเมื่อการมารวมตัวของเหล่าไดโนเสาร์จากทั่วโลก ที่เริ่มก่อสงครามกับมนุษย์

         ส่วนตัวผู้เขียนชอบ ถ่ายทำมาก เพราะได้การ นำ การแสดงแบบยุคเก่าและยุคใหม่ ผสมกันออกมาได้ดีเลยตัวหนังในภาคนี้ถือว่าขยายสเกลแบบเล่นใหญ่เวอร์วังทุกภาคส่วนจริง ๆ ครับ ตั้งแต่ความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งนักแสดงจากทั้งภาคเก่าภาคใหม่

            ทางผู้ออกแบบไดโนเสาร์ได้มีความเห็นว่าด้วยความที่มีพันธุ์ไดโนเสาร์ที่หลากหลายมากที่สุด และอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดจากนักบรรพชีวินวิทยาแล้วเรียบร้อย รวมทั้งการผสมผสานระหว่าง CGI กับหุ่นกลไกไดโนเสาร์เสมือนจริง หรือ Animatronics ที่นำมาใช้มากที่สุดในไตรภาคแล้ว รวมทั้งการถ่ายทำในหลาย ๆ โลเคชัน หลากภูมิประเทศจากทุกมุมโลก เสียดายที่ไม่มี ป่าชายเลนไทย

        แน่นอนว่าแม้หนังจะติดดีเลย์พอ โควิด-19 แต่ก็ดันทุรังฉายออกมาได้ดีตีแผ่รวมทั้งประเด็นการที่มนุษย์หาประโยชน์จากไดโนเสาร์ ที่คราวนี้ไม่ได้แค่เอาไปขายเป็นตัว ๆ แต่พยายามจะเอาเทคโนโลยีมาแอบอ้างหาประโยชน์ ให้พวกตัวเองมาก

         และพยายามเปลี่ยนรูปแบการนำเสนอใหม่โดนการ ดัดแปลง ไดโนเสาร์ให้มีคุณสมบัติอย่างที่ตัวเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบโดยรวม ทำให้บางครั้ง มนุษย์ที่มักมองตัวเองเป็นผู้ล่า แต่จริง ๆ แล้วมนุษย์เองก็หลงลืมไปเหมือนกันว่า บางครั้งตัวมนุษย์เองนี่แหละก็ทำตัวเองให้กลายเป็นผู้ถูกล่าได้เหมือนกันนะ

         Action ถือว่าเด็ด และมีความเอาอยู่ของผู้กำกับอีกอย่างคือจังหวะการเล่าเรื่องที่ถือว่าสามารถคุมไดนามิกได้น่าสนใจมากเป็นการอัปเกรดจากตัวหนังที่เคยเป็น Action Adventure ในเกาะปิดตาย แต่คราวนี้ตัวละครหลักจะได้ออกไป Adventure พบเจอกับงานด้าน Action ทั้งจากไดโนเสาร์และจากมนุษย์ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก มากระจุกกันในที่ๆเดียว

         แถมยังผสมความสยองขวัญจากไดโนเสาร์ ที่ถือว่าเป็นเสน่ห์เฉพาะ Jurassic เข้าไปด้วย แม้ตัวหนังจะพึ่งพาเทคนิค Jump Scare เยอะหน่อย แต่ก็ถือว่าวางจังหวะให้ได้สะดุ้งวาบได้รุนแรงกว่าภาคก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัดเลย แถมยังแอบใส่แฟนเซอร์วิสและมุกจาก Jurassic Park ภาคเก่า ๆ เอาไว้ให้สังเกต

         พร้อมกับงานด้านภาพที่ชวนว้าวในหลาย ๆ ช็อตเอาเป็นว่าต้องไปไล่ดูเอาเองดีกว่า แต่ถือว่า คาวารวะ ภาคเก่าได้ดี แน่เนื้อเรื่องแค่อาจจะไม่เข้มข้นเท่าภาคเก่าที่อาวุธยังไม่ทันสมัยได้แค่หนี แต่ภาคใหม่นี่ บู๊หนักมาก ตั้งแต่ต้นยันจบเลย ไม่ว่าหนีจากมนุษย์และ เหล่าไดโนเสาร์ล่าเนื้อ สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เล่นพนันออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ