Hustle 1

[Review ภาพยนตร์ Drama กีฬา Netflix]   “Hustle” คนจะดัง…อย่าฉุด หนัง NBA นอกกระแส แต่คุณภาพเนื้อเรื่องคับแก้ว

         ก่อนรับชม อยากให้ ผู้อ่านตัด อคติออกจากหัวไปก่อนว่า “ มันก็ แค่หนังกีฬา” คำแต่คือใช่ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะ Netflix กำลังหลอกคุณ ให้กำลังพลาด หนังแนวชีวิต Feel good  อดีต นักบาส หมดไฟคนหนึ่งนามว่า  Stanley Sugarman หลังเลิกเล่นอาชีพ บาส มืออาชีพ

         ตัวของ Stanley Sugarman  ก็มาเป็นพนักงานประจำให้กับทีม Philadelphia 76 ers ในตำแหน่งแมวมอง หนังใช้เวลาช่วงต้นเรื่องปูทางให้เราเห็นชีวิตการทำงานของซูการ์แมน ที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกแทบไม่ได้หยุดพัก เพื่อเสาะหานักเล่นหน้าใหม่มีพรสวรรค์มาเข้าทีม จนเขาบังเอิญมาพบกับ… คนที่เหมือน สวรรค์ส่งมา Bo Cruz

         Bo Cruz ที่กำลังเล่นบาส ข้างถนนอย่างเหงา ๆ  ทั้งที่ ลีลาเก้ง ๆ ก้าง ๆ  แต่มันกลับทำให้ชายหนุ่ม ที่เคย หมดไฟไปแล้วครั้งนี้  ได้เจอ สายลมแห่งยุคใหม่ เข้าให้แล้ว Stanley Sugarman   ไม่รอช้า เลยพา เจ้าม้ามืดคนนี้ไปเสนอตัวกับ Philadelphia 76 ers แน่นอนว่า ต้นสังกัดไม่พอใจ

         มันจะยากอะไร งั้นผมลาออก Stanley Sugarman ได้ซองขาวพร้อม พา Bo Cruz เฟ้นหาทีมใหม่ เขาต้องพยายามทุกวิถีทาง Bo Cruz ให้เป็นซูเปอร์สตาร์ NBA ระดับ World class แน่แล้วขอให้ทีมไหนก็ได้ใน NBA รับครูซเข้าเป็นสมาชิกทีม ซึ่งถือจุดแตกหัก ของเรื่องที่จะทำให้ทุกอย่างเข้มข้น

         ด้านหนังเอง แม้ว่าหน้าหนัง Hustle จะเป็นหนังบาสเก็ตบอลแบบชัดเจนมาแต่ไกล แต่แฟน ๆ บาสเก็ตบอลก็อย่าคาดหวังว่าจะได้ดูฉากแข่งบาสเก็ตบอลมันส์ ๆ ในเรื่องนี้นะครับ พราะนี่คือหนังที่เล่าเรื่องราวของ โบ ครูซ นักบาสข้างถนนผู้มีพรสวรรค์แล้วกลายมาเป็นดาวรุ่งใน NBA ฉากที่เราเห็นบ่อย ๆ ในสนามก็คือ

         ความสามารถที่ซ่อนไว้ในตัวพระเอก Bo Cruz  ฉากโชว์ความสามารถในการชู้ต ประกบบอล แย่งบอล หลอกล่อ ปัด ฉากแข่งก็เป็นฉากสั้น ๆ เล่นแบบทีม 3 คน แค่นั้น ไม่มีฉากเชย ๆ แบบว่าตามอยู่ 1 แต้ม แล้วกำลังจะหมดเวลา มีภาพสโลว์โมชัน พระเอกชู้ตลูกไปแล้ว ภาพลูกบาสลอยตรงไปยังห่วงตัดสลับกับภาพตัวเลขนาฬิกากำลังเดินถอยหลังแบบนั้น บอกเลยถือเป็นสูตรสำเร็จหนังกีฬาเลยก็ว่าได้

         แม้ว่าท้ายสุดของ  “Hustle” คนจะดัง…อย่าฉุดคือด้านงานภาพและการโปรดัก ด้านนี้ทำได้ดีมาก ๆ สำหรับหนังแนวนี้งานภาพแบบนี้ โทนสีภาพที่ใช้ มุมกล้อง ทุกอย่างดีงามหมด เสื้อผ้าหน้าผมก็ทำได้ดี และเป็นส่วนที่ช่วยส่งให้งานภาพดีขึ้นไปอีก ส่วนด้านงานโปรดักก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่ผมรู้สึกว่าน่าจะทำได้ดีมากกว่านี้อีก

         เอาเป็นหนังนั้นมันอยู่ในระดับที่ดีใช้ได้ การตัดต่อ เพลงที่ใช้ การลำดับเสียง ทุกอย่างทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรวมคือเป็นหนังที่ดีเรื่องนึงเลย คุ้มค่าแก่การสละเวลา ถือว่าเป็นหนังดราม่าที่สาย NBA ห้ามพลาดเพราะว่ามีการเอานักบาส จริง ๆ มาแสดง แต่จะเป็นใครนั้น คอยรับชมต่อกันได้ใน NETFLIX  สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เล่นพนันออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *