
[REVIEW ภาพยนตร์ มิวสิคคัท] “Elvis” (2022) เปิด ราชาเพลง Rock and roll ยุค’70 ที่เขย่าวงการเสียงดนตรีได้อย่างอยู่หมัด
นับเป็นความบ้าดีเดือด ของ Baz Luhrmann ที่หอบเอาแนวคิดสร้างสรรค์มาละเลงวาดลวดลายเล่าเรื่องราวชีวิตของตำนานเพลงที่ได้ชื่อว่า King of Rock and roll ยุค’70 เพราะนี่คือ “Elvis” นี่คือตำนานของ Elvis Presley ผ่านความสัมพันธ์แสนซับซ้อนกับ
ผู้จัดการนิสัยลึกลับ Tom Parker เรื่องราวจะเจาะลึกไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ในตลอดเวลา 20 ปี ตั้งแต่ Elvis Presley เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปจนถึงตอนที่มีแฟนคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางพื้นเพเบื้องหลังของวัฒนธรรมที่กำลังพัฒนาและการสูญเสียความไร้เดียงสาในอเมริกา

แน่นอนว่าองค์ประกอบฉาก, องค์ประกอบศิลป์, ดีไซน์บทเพลง หรือจะงานตัดต่อ ล้วนแต่เป็นองค์ที่ไว้วางใจ Baz Luhrmann ได้ และเรื่องนี้เขาก็ยังคงไว้ด้วยสไตล์และลายเส้นเฉพาะตัวของเขาเองเอาไว้ได้ทุกอณูของหนัง ความจัดจ้านในการตัดต่อและเล่าเรื่องยังบ่งบอกในความเป็น Baz Luhrmann โดยแท้ และความลื่นไหลต่าง ๆ แสดงออกให้เห็นถึงแนวทางที่ถนัดของแต่ละคน เมื่อหนังมาอยู่ในมือของคนที่คู่ควร มันราวกิ่งทองใบหยก
การดีไซน์การแสดง ไม่ว่าจะเป็นท่าทางและน้ำเสียงการพูดต่าง ๆ Austin Robert Butler เจ้านักแสดงเอก ถือว่าทำการบ้านมาดี เขาอาจจะไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ เพราะจริง ๆ Austin Robert Butler สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เด็ก ๆ

เพราะตัวเขานั้น ผ่านงานแสดงมาก็พอประมาณ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขาถูกเลือกให้มาเป็นนักแสดงนำที่โดดเด่นที่สุด และเขาก็สามารถแบกรับหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง และไม่อาจจะทำให้ผู้ชมละสายไปได้เลย เพราะการเหลาคมความหล่อแบบเดียวกับต้นฉบับ

เรื่องที่ติจะมีอยู่นิดเดียว นั้นคือ เพลงและจังหวะทำนองนั้น ยังไม่เข้าถึงความเป็น ยุค 1970 เท่าไรแต่ในส่วนองค์ประกอบงานออกแบบเสื้อผ้าของหนังเรื่องนี้ ต้องยกนิ้วให้จริง ๆ เพราะทีมงานสร้างเก็บรายละเอียดแทบจะทุกระเบียบนิ้วในยุคนั้นเอามาใส่ไว้ได้เป๊ะ ๆ แน่นอนว่าองค์ประกอบนี้ถือว่าเป็นอีกไฮไลต์เด็ดในทุก ๆ เรื่อง และ Elvis ก็ถือว่าสอบผ่านในองค์ประกอบงานสร้างหลาย ๆ ด้านที่บรรจงสร้างออกมา

สรุป แล้ว Elvis ก็ถือว่าเป็นหนังชีวประวัติตำนานเพลงที่ทำออกมาได้ค่อนข้างกล่อมกลม ช่วงปูเรื่องตอนแรก ๆ เล่าเรื่องได้กระชับติดสปีดทีเดียว แม้ว่าจะมาย้วยนิดหน่อยในช่วงกลาง ๆ แต่ก็สามารถปิดองก์ท้ายของเรื่องได้อย่างทรงพลังกับความดราม่าที่เพิ่มลำดับขึ้นเรื่อย ๆ บทหนังเรื่องนี้อาจจะยังไม่กลมกล่อมมากนัก แต่ก็นับได้ว่าเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ในชีวิตเอลวิส ผนวกเข้ากับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในช่วงชีวิตเขาเอาไว้ได้ค่อนข้างดี สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เล่นพนันออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ