[REVIEW ภาพยนตร์มาใหม่] ONE PIECE FILM: RED “อุตะ เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง” สาวก จักรรพดิผมแดงถึงกับอึ้ง ไม่นึกว่าอาจารย์จะกล้าเล่น ?
เรียกได้ว่าเป็นอีกมูฟวี่ที่หลายคนจับตามองแม้ว่าหนังโรงของ ONE PIECE จะมีมาถึง 14 ภาคแล้ว แต่ THE MOVIE ที่ผู้แต่งอย่าง อาจารย์โอดะ เออิจิโระ (Oda Eiichiro) ได้มีส่วนร่วมนั้นก็มีเพียง 5 ภาคเท่านั้น และนี่ก็ถือเป็นครั้ง 5 ที่อาจารย์โอดะได้มีส่วนร่วมในการสร้างเดอะมูฟวี่ขึ้น
เรื่องราวของหนังจะย้อนไป่ก่อนที่ ลูฟี่จะปะทะไคโด บิ๊กมัม แต่มีจินเบ ?…และได้ล่องเรือมาที่เกาะเอเลเจีย เพื่อชมคอนเสิร์ตของ ‘อุตะ’ นักร้องสาวที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของลูฟี่ เธอเป็นลูกสาวของแชงค์ จักรพรรดิโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ที่มอบหมวกฟางให้กับลูฟี่ โดยลูฟี่ได้พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะเอเลเจีย มีแต่เรื่องที่ไม่ชอบมาพากล พร้อมกันนั้นในเกาะยังมีโจรสลัดกับทหารเรืออีกมากมายที่พร้อมจะห้ำหั่นกันได้ทุกเมื่อ ทุกคนมาที่เอเลเจียทำไม
ในที่สุดก็ได้ดูสักที่แม้ Movie จะไม่ถูกนำตามไทม์หลักแบบ Dragon ball ต้องขอบอกเลยว่าในบรรดา 5 ภาคที่อาจารย์โอดะมีส่วนร่วมในการสร้างนั้น FILM: RED นับว่าเป็นภาคที่มีโทนแปลกที่สุด เพราะตามปกติแล้ว เนื้อหาในเดอะมูฟวี่ของ ONE PIECE มักจะเป็นเรื่องราวจบในตอน โดยเป็นอนิเมะแอ็กชันผจญภัยที่ผสมไปด้วยประวัติศาสตร์กับปมปริศนา แต่ทว่า FILM: RED กลับเน้นหนักไปทางดราม่าและมิวสิคัลซะมากกว่า เป็นแนวการ์ตูนเพลง ซึ่ง…ไม่คิดว่าอ.จะกล้าเล่นแบบนี้
ใน ONE PIECE FILM: RED ด้านงานเสียงร้องเพลงของตัวละครแม่สาว ไมค์ทองคำ อุตะก็ไม่ได้มาแบบธรรมดานะ เพราะทีมงาน ONE PIECE ได้เชิญนักร้องอย่าง ADO มาร้องให้หนังเรื่องนี้เลยทีเดียว ซึ่งแต่ละเพลงก็บรรจงแต่งมาเพื่อ ONE PIECE FILM: RED โดยเฉพาะ และขนกันมาให้ฟังกันถึง 8 ซิงเกิล แฟนคลับ ADO กับคนชอบฟังเพลง น่าจะฟังกันอย่างจุใจแน่นอน แต่ของไทย Zbing.Z ซึ่งทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน
ในรูปแบบทางเนื้อเรื่องนั้น ONE PIECE FILM: RED ภาคนี้ก็ได้หยิบข้อดีของเดอะมูฟวี่ภาคที่แล้วอย่าง One Piece: Stampede มาใช้ นั่นคือการให้ตัวละครเก่า ถูกโยนเข้ามาในสถานการณ์ที่ไม่ควรจะเจอกัน จากนั้นเราก็จะได้เห็นตัวละครเหล่านั้นออกมาแท็กทีมต่อสู้ ซึ่งเป็นแฟนเซอร์วิสที่ไม่ค่อยได้เห็นในภาคหลักกันเท่าไหร่
แม้หนังจะอุดมไปด้วยสงคราม ไมค์ทองคำ ใครจะตีกันไม่รู้ แต่เพลงต้องมาก่อนตลอด แถมลำดับเนื้อหาได้ไม่ดีจนทำให้ครึ่งแรกนั้นน่าเบื่อเอามาก ๆ แต่หนังก็มาแก้ตัวได้ในช่วงองค์สุดท้ายของเนื้อหา ได้แบบ….หมดจด ซึ่งเป็นฉากแอ็กชันที่ระดมตัวละครที่เราแสนคิดถึงออกมาประจัญบานกับบอสในภาคนี้ บอกเลยว่า วันพีชยังไงก็วันพีช
ถือได้ว่าเป็นอีกจุดเด่นที่ช่วยชูให้ภาคนี้ดีงามขึ้นมาคือตัวละครอย่าง สี่จักรพรรดิโจรสลัดแชงค์ ซึ่งภาคนี้ก็ทำให้เราได้เห็นนิสัยใจคอเขามากขึ้น แถมการปรากฏตัวของเขาในภาคนี้ก็เท่เอามาก ๆ แข็งแกร่งและเหมาะสมกับการเป็นสี่จักรพรรดิอย่างไร้ข้อกังขา ถ้าใครหวังจะเห็นผมแดงอกมาบู๊เป็นขวัญตา ภาคนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างเต็มอิ่มเลยล่ะ
โดยรวมแล้วการ์ตูนอย่าง ONE PIECE FILM: RED คือมูฟวี่ที่มีรสชาติแปลกใหม่ ซึ่งอุดมไปด้วยเพลงเพราะ ๆ ที่ชวนฟัง ถึงครึ่งแรกจะดำเนินเรื่องได้ไม่ดี แต่ก็พลิกกลับมาด้วยแฟนเซอร์วิสในช่วงท้าย แม้บทสรุปจะเล่นง่ายจนแอบผิดหวัง แต่ก็เป็นอีกมูฟวี่ที่บอกเลยว่าครึ่งหลัง โคตรอลังการ คุ้มค่าตั๋วมาก ๆ สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เล่นพนันออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ