Blood Red Sky โจร VS แวมไพร์ VS คนโรคจิต หนังที่ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรถูก

Pescinema เว็บของคนรักหนังที่รีวิวหนังใหม่ชนโรง

อยากที่บอกไปก่อนหน้านี้แหละ ตอนแรกก็ว่าจะข้ามหนังเรื่องนี้ไปแหมือนแต่พอไปดูมา อืม ใช่ได้..มิหน่าติดเทรน Netflix ต้องยอมรับว่า ผู้กำกับ ปีเตอร์ ทอร์วาร์ธ แค่ดำเนินเนื้อเรื่องได้ดีจริงๆ(ดีแบบ..เอาน่าดีจริงๆละกัน) แต่พอมาดูครึ่งหลัง…อะไรฟ่ะเนี่ยคือบางทีต้องทำความเข้าใจนิดหนึ่งว่า พวกเรามีอาวุธครบมือทำไมลองสาดกระสุนยิงกับแวมไพร์ดูก่อน สิ่งที่น่ารำคาญคือช่วงกลางเรื่อง

เพราะตัวหนังจะยืดมากจนบางทีก็อยากให้ตัดๆถึงไปมันก็ได้แบบการย้อนความหลังว่าทำไมแวมไพร์ถึงมาอยู่บนเครื่อง และสิ่งที่รำคาญสุดๆก็คือตัวหนูน้อย แม่ ทั้งเรื่อง ไม่รู้จะอินไปถึงไหนบางทีพ่อหนูเล่นตะโกนจนเรารำคาญแล้วอะ

คือแบบมันจะว่าไงดีละเอาง่ายๆคือความสนุกอยู่ที่ 30 นาทีแรกเท่านั้น ที่เหลือคุณจะพบความน่าเบื่อ ความไม่สมเหตุผล แต่ชอบใจอย่างหนึ่งคือ คนโรคจิตนี้คนแสดงเขาเล่นดีมากเข้าถึงบทจริงๆ นึกว่าโจ๊กเกอร์มาเองเลย โชดดีแหะที่ได้นักเครื่องกับพี่โจ๊กมาร่วมขึ้นเครื่องบินกับเราเลยแต่ขอบอกนะรำคาญอยู่เรื่องเดียวเลยตลอดตัวนั้น เอาไอ้เด็กเปรตนี้ออกไปหน่อยได้ไหม..ทำบรรลัยทั้งเรื่องอยู่คนเดียว 5/10 พอถ้าดูแนะนำว่ารอดูคนสปอยหนังดีกว่า ไม่พลาด ง่วนมาก สำหรับใครที่มีปัญหานอนไม่หลับ หนังเรื่องนี้ช่วยได้ หลับแน่นอน

เรื่องย่อ

นาเดีย กับ เอลิอัส แม่ลูกคู่หนึงที่กำลังออกเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เนื่องจากว่านาเดีบป่วยเป็นโรคประหลาดที่ต้อหาหมอเฉพาะทางในการรักษาที่อเมริกาในระหว่างที่เครื่องบินที่เพิ่งจะขึ้นบินได้ไม่นาน ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้พยายามไฮค์แจ็คเครื่องบิน และเตรียมหันหัวเครื่องมุ่งตรงไปกลางกรุงลอนดอน เพื่อก่อเหตุวินาศกรรมแต่ สถาการณ์ บนเครื่องบินไม่ได้เข้าข้างกลุ่มผู้ก่อการร้ายมากนักเพราะมีบางอย่างเดินทางมากับพวกเขาด้วย

เรื่องย่อน่าสนใจมากๆแต่พอไปดูจริงๆ ทุกอย่างดีหมดเลยเว้นแค่เด็กกับการตัดสินใจตัวละครที่แบบเออเอาจริงดิเอางั้นเลยหรอ แวมไพร์ดูกระจอกมาก คือถ้าคนร้ายสู้ไม่ได้ทำไมตัดสินใจระเบิดเครื่องทิ้งเลยละไหนๆก็ไหนตายกันให้หมดเนี่ยแหละ อาวุธมากันเยอะแวมไพร์ตัวยังเอาไม่อยู่แถมตัวหนังน่าจะแถประมาณ แวมไพร์กัดแพร่เชื้อได้ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย น่าจะเป็นหนังแวมไพร์ที่ห่วยที่สุดเลย ถ้าจะดูเรื่องนี้ ผมขอไปดู เที่ยวบินผี กับ เลื้อยฉกเที่ยวบินระทึกดีกว่า

Pescinema ก็ขอจบการรีวิวเพียงแต่นี้