Godzilla vs. Kong – ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง

Godzilla Vs Kong บทส่งท้ายจักรวาลมอนสเตอร์ นับตั้งแต่ปี 2014 ที่ได้มีภาพยนตร์เรื่อง Godzilla ที่เป็นหนังเปิดจักรวาลมอนสเตอร์ให้กับทาง Legendary และ Warner Bros. ซึ่งเป็นเจ้าของบทวิจาร์ณ์ที่เรียกได้ว่า แตกเป็น 2 ส่วน คือถูกใจนักวิจารณ์ แต่ไม่ถูกใจคนดูคอหนังแอคชั่น อาจเพราะด้วยที่ฉากน้องก็อดซิลล่า ออกมาน้อยกว่าคู่ปรับอย่าง มูโตซะอีก ทำให้ จนทำให้ภาคหลัง ๆ ได้มีการปรับบทบาทให้เจ้าของชื่อเรื่องได้แอร์ไทม์ในหนังเยอะขึ้นเอาใจคนดูใน Godzilla: King of the Monster 2019 ซึ่งพอมาภาคนี้ไม่วายโดนคนบ่นอีกว่า หนังมืดมาก สู้กันแต่ตอนกลางคืน รวมไปถึงพาร์ทดราม่าของมนุษย์ในเรื่องชวนให้ลำไยมาก พร้อมด้วยความยาวหนังที่ยาวเกิน 2 ชั่วโมง หลายเสียงบอกค่อนข้างยืดมาก ทำให้ ผกก. Godzilla vs Kong ต้องทำการบ้านอย่างหนัก จนแล้วจนรอดปี 2020 ค่ายหนังก็ประกาศเลื่อน (หนีโควิด19) จาก มีนาคม ไปเป็น พฤศจิกายน และประกาศเลื่อนอีกครั้งมาเป็นปีนี้เดือน พฤษภาคม และเลื่อนขึ้นมาอีกรอบเป็น มีนาคม 2021 จนในที่สุดก็ได้ดูกันซักที

ตัวหนังในภาคนี้เป็นเรื่องราวหลังจากภาคก่อน 3 ปี เมื่อก็อดซิลล่าปรากฏตัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ กลายเป็นว่าก็อดซิลล่าออกอาละวาดทำลายศูนย์วิจัยของบริษัท APEX ทำให้มนุษย์นั้นเริ่มตระหนักว่า หรือแท้จริงแล้วก็อดซิลล่าจะเป็นตัวร้ายกัน? ส่วนอีกฝากนึงที่เกาะกะโหลก คองก็ถูกกักกัน เพื่อป้องกันไม่ได้ คองและก็อดซิลล่าต้องมาปะทะกันแต่แล้ว ก็ได้มีดร.ลิน ซึ่งมีทฤษฎี ฮาโลว์ เอิร์ธ ว่าด้วยโลกเรานั้น ใจกลางโลกเป็นจุดกำเนิดเหล่าอสูรยักษ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นแหล่งกำเนิดของเผ่าพันธ์คอง รวมไปถึงพลังงานที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้มนุษย์นั้น สามารถเอาชนะก็อดซิลล่าได้ เลยจำเป็นต้นขนย้าย คองไปยังประตูสู่ฮาโลเอิร์ธ ณ ดินแดนแอนตาร์คติการ์ แต่ในระหว่างทางก็อดซิลล่าก็ได้ออกมาปะทะเข้าซะก่อน เนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมไปติดตามดูในโรงภาพยนตร์กันนะครับ

หลังดูจบ ต้องขอแยกเป็น 2 ส่วนนะครับคือ 1 ส่วนที่ชอบ คงหนีไม่พ้นพาร์ทของสัตว์ประหลาด ที่มีแอร์ไทม์ค่อนข้างเยอะ และฉากปะทะกันที่ยาวสะใจมาก ฉากต่อสู้ต่าง ๆ ไม่มืดแล้ว มุมกล้องที่ส่วนใหญ่ใช้มุมกล้องแบบ Human Eye View ทำให้สัตว์ยักษ์ดูอลังการขึ้นไปอีก เหมือนได้ดู Pacific Rim ภาคแรกเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงพล็อตหนังที่ค่อนข้างแฟนตาซี มีความกาว แบบก้าวกระโดดจากภาคแรกมาก (อันนี้ชม) เหมือนเขียนบทมาเพื่อเอาใจคนดูทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงและสนุกไปกับฉากแอคชั่นต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องมีบทที่ซับซ้อน ซึ่งพอตัวหนังมันเปลี่ยนโทนมาเป็นแนวนี้ จึงทำให้มีส่วนที่ไม่ชอบนั่นก็คือ พาร์ทมนุษย์ โดยเฉพาะเส้นเรื่องของ แมดดี้ แมดิสัน ตัวละครหลักจากภาคก่อน ซึ่งเหมือนตัวบทพยายามใส่น้องเข้ามาเพื่อให้หนังมีคาแรคเตอร์ตัวละครเดิมจากหนังภาคก่อน มาปรากฎตัวสร้างความเชื่อมโยง แต่บทของตัวละครนี้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อเส้นเรื่องเลยก็ว่าได้ ค่อนข้างน่าผิดหวังในส่วนนี้

สรุปแล้วถือว่าเป็นหนังภาคต่อทิ้งท้ายจักรวาลมอนสเตอร์ ที่ค่อนข้างน่าพอใจ และแอบหวังให้จักรวาลนี้ได้ไปต่อในภาคต่อๆไปเอามากๆจริงๆ 8.5/10

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *