[รีวิว การ์ตูน ไซไฟ คอมเมดี้] Cloudy with a Chance of Meatballs ฝนตกเป็นอาหาร
ตัวหนังดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนขายดี Cloudy with a Chance of Meatballs ก่อนที่จะมาเป็นหนังแบบเต็มรูปแบบในปี 2552 ถูกร้างโดย โคลัมเบียพิกเจอร์ ค่ายหนังยักษ์ใหญ่น้อง ๆ Sony ใช้ทุนสร้างมากถึง 100 ล้านเหรียญและทำกำไรไปได้ 250 ล้านเหรียญ เป็นหนังที่ทำรายได้ดีมหาศาลจนมีภาคต่อออกมาซึ่ง….แน่นอนว่าภาคแรกดูดีกว่า
เรื่องราวนั้นเกิดจากนักวิทย์สติเฟื่อง ที่ได้เบื่อ การที่เขาต้องกินปลาซาร์ดีนทุกวันเลยจำเป็นต้องหาอะไรมาเปลี่ยนแปลงบ้าง เลยสร้างเครื่องมือที่เปลี่ยนฝนที่กำลังจะตกให้กลายเป็นอาหารแน่นอนว่าถ้าสร้างเครื่องมือแบบทำลายธรรมชาติทางอ้อมแบบนี้ผลที่ตามมาก็คือระเบิดเวลาดี ๆ
เป็นอนิเมะชั่นที่ดูแล้วหิวพอ ๆ เจ้าหนูนักทำอาหารแดนผู้ดีเลยแน่นอนว่า ตัวหนังนั้นก็ทำอาหาร 3 มิติ ออกมาได้น่ากินจริง ๆ อีกทั้งตัวหนังยังมีการเพิ่มความสัมพันธ์ในครอบครัวตวามรู้สึกของคน 2 คน ที่อยากจะเข้าใจแม้อีกคนจะหัวโบราณแต่อีกคนก็เริ่มเปิดใจที่จะรับมันไว้
บอกได้คำเดียวว่านี้เป็นหนังที่ดีสุดแล้วสำหรับการทำให้ท้องหิวและสถานบันครอบครัวไปในตัวและก็หนังที่สอนเราแบบต่าง ๆ เป็นหนังที่ดูได้ในวันสบาย ๆ ของครอบครัว และควรจะมีของกินเต็มโต๊ะ แบบจัดเต็มเสียหน่อยจะได้ไม่หิวกลางทางKFC พิซซ่าถาดโต ๆ กับน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยวก็ดีถ้าพร้อมแล้วไปดูกันได้เลย
นักประดิษฐ์ ฟลินต์ ล็อกวูดอัจฉริยะผู้รักสันโดษที่อยู่เบื้องหลังสิ่งประดิษฐ์พิลึกพิลั่นหลายชิ้น และถึงแม้สิ่งประดิษฐ์ทุกชิ้นของเขา นับตั้งแต่รองเท้าพ่นสเปรย์ไปจนถึงเครื่องแปลความคิดลิง จะล้มเหลวไม่เป็นท่าฟลินต์ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่จะทำให้คนมีความสุขออกมาให้ได้
แน่นอนว่าการประดิษฐ์เครื่องจักรสำหรับเปลี่ยนของเหลวให้เป็นของกิน แต่มันกลับไปทำลายจัตุรัสของเมืองและพุ่งตัวขึ้นไปในหมู่เมฆ ฟลินต์คิดว่าอาชีพนักประดิษฐ์ของตัวเองจบเห่แล้ว แต่สิ่งน่าอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ชีสเบอร์เกอร์ตกลงมาจากฟากฟ้า เครื่องผลิตอาหารของเขาใช้ได้จริง แถมยังทำให้เขาได้สานสัมพันธ์กับ แซม สปาร์กส์ สาวนักข่าวพยากรณ์อากาศที่มาเยือนเมืองแห่งนี้ เพื่อติดตามปรากฏการณ์ทางดินฟ้าอากาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
แต่เมื่อประชาชนนั้นโลภมากอยากได้อาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องจักรก็เริ่มรวนและปล่อยทอร์นาโดสปาเก็ตตี้และลูกชิ้นยักษ์ออกมา เมื่อเมืองกำลังจะถูกฝังอยู่ใต้ภูเขามาร์ชเมลโลว์เรนโบว์และคลื่นแตงโมฟักทองไชโยโห่ฮิ้วก็เป็นหน้าที่ของฟลินต์และแซมที่จะใช้ความสามารถของพวกเขาในการหยุดการทำงานของเจ้าสิ่งประดิษฐ์ และทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง