Death Note

[รีวิว หนัง Netflix] Death Note Netflix แอลหัวร้อนกับไลท์ที่เป็นคนดีขึ้นมาหน่อย

           Death Note การ์ตูนสุดฮิตที่ว่าด้วยเรื่องราวของยมทูต สุดเกรียนที่แอบทำสมุดบันทึกตกไว้หลังจากที่ได้มีหนังและการ์ตูนออกมาแบบหลายเวอร์ชั่นมาก ๆ ในที่สุดก็ถึงตาของเจ้าพ่อหนังใหญ่อย่าง Netflix ได้ขอซื้อ LC นำไปต่อเอง

           ภาพยนตร์ Death Note ฉบับนี้กำกับงานสร้างโดย Adam Wingard ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงวัย 34 ปี ที่จริง ๆ แล้วมีประสบการณ์ผลิตงานภาพยนตร์ในสายขย่าขวัญ เป็นหลัก อาทิ You’re Next และก็ Blair Witch และแน่นอนว่า Death Note ฉบับนี้จะเต็มไปด้วยฉากตกใจและเลือดสาดมากมายอาจจะหนักกว่าของเวอร์ชั่นญี่ปุ่นหลายขุม

          พล็อตเรื่องหลักของภาพยนตร์ Death Note ไม่ค่อยแตกต่างกับเวอร์ชั่นเดิมเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปแบบเป็นหนังคนละม้วน คือเมืองและสภาพแวดล้อมที่ตัวละครอาศัย วัฒนธรรมตะวันตกที่ผสมปนเปอยู่ในภายในเรื่องด้วย เพราะเหตุนี้ทำให้นิสัยของตัวละครแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง

         แต่รู้สึกว่าจะมีปัญหาตรงนักแสดงและบทหนังบางอย่างโดยกรณีของ L ที่แบบ กลายเป็นไอ้เด็กเนิดร์ผิวสีหัวร้อนควงปืนออกไล่ยิง ไลท์อย่างบ้าคลั่งหลังจากที่พ่อบ้านคนสนิทตนเองไปสรรค์

          และ มีอา(มิสะ)ที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยคิดจริงใจกับใครเลยนอกจากตัวเองซึ่งผิดกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่ มิสะยอมทุกอย่างเพื่อไลท์จนตัวตายแต่มาเวอร์ชั่นเธอแค่หลอกใช้ไลท์แค่นั้นและอีกหลายๆอย่างที่มันไม่เมคเซ็นต์เอาสะเลย อย่างการกระทำของ L ที่ไม่เข้ากับหน้าตาและบุคลิกเลยดูฝืนๆยังไงไม่รู้เหมือนว่าผู้กำกับท่านนี้ยังคงชำนาญในสไตล์เล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ระทึกขวัญ เขย่าขวัญอยู่เช่นเคย

           และอาจจะเป็นประเด็นหลักของ Death Note ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเฉือนคมในลักษณะแนวสอบสวนอยู่มากทีเดียว จึงทำให้หลายอย่างที่แฟนการ์ตูนคาดหวัง ไม่มีอยู่ในนั้น แต่จากแนวทางที่ฉบับนี้วางไว้เองก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายย่ำแย่อะไร เพียงแค่ตัวละครหลักทุกคนมีความเป็นวัยรุ่นหัวร้อน ซึ่งก็กลายเป็น Death Note ในอีกรสชาติหนึ่ง และจริง ๆ มันอาจจะลงตัวกว่านี้ถ้าทำเป็นซีรีส์ความยาวสัก 13 ตอน ที่จะทำให้ผู้ชมได้อินกับตัวละครในแบบที่ไม่คุ้นเคยมากกว่านี้ก็เป็นได้

            เรื่องย่อของหนัง   เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะนักเรียนคนหนึ่งที่เก็บ สมุดลึกลับ เล่มหนึ่ง  ที่สามารถ ฆ่าใครก็ได้ ด้วยการเขียนชื่อของเหยื่อลงไปในสมุด  ทำให้เขามีความสามารถประดุจดั่ง พระเจ้าแห่งโลก แต่ก็มีกลุ่มคนอีกฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา  จึงได้สืบหาต้นตอของหนังสือมรณะ  การชิงไหวชิงพริบเสมือนดั่ง เกม ไล่ล่าผู้กำกับโจ้ จึงเริ่มต้นขึ้น… 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *